ในยุคที่ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โซล่ารูฟกับโซล่าเซลล์ต่างกันอย่างไร กลายเป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัย เพราะทั้งสองระบบมีชื่อเรียกที่คล้ายคลึงกันจนอาจทำให้เกิดความสับสน แต่แท้จริงแล้วทั้งสองระบบมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งการทำงาน การติดตั้ง และการใช้งาน
โซล่าเซลล์คืออะไร?
โซล่าเซลล์ หรือเซลล์แสงอาทิตย์ คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง โดยใช้สารกึ่งตัวนำประเภทซิลิคอนเป็นตัวแปลงพลังงาน เมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบแผงโซล่าเซลล์ จะเกิดการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนภายในเซลล์ ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) ขึ้น
โซล่ารูฟคืออะไร?

โซล่ารูฟ หรือโซล่ารูฟท็อป คือระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคาร ประกอบด้วยแผงโซล่าเซลล์ อินเวอร์เตอร์สำหรับแปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นกระแสสลับ และระบบควบคุมการจ่ายไฟ ทำให้สามารถนำไฟฟ้าที่ผลิตได้มาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในอาคารได้โดยตรง
โซล่ารูฟกับโซล่าเซลล์ต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างหลักระหว่างโซล่ารูฟกับโซล่าเซลล์อยู่ที่ขอบเขตของระบบ โดยโซล่าเซลล์เป็นเพียงอุปกรณ์แปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า ในขณะที่โซล่ารูฟเป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่ครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การแปลง และการจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่อาคาร นอกจากนี้ โซล่ารูฟยังมีระบบการจัดการพลังงานที่ซับซ้อนกว่า สามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลักและมีระบบสำรองไฟได้
โซล่ารูฟมีกี่ระบบ

ระบบโซล่ารูฟสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักตามลักษณะการเชื่อมต่อและการใช้งาน ดังนี้
1. ระบบออนกริด (On-Grid System)
ระบบออนกริดเป็นระบบที่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า เหมาะสำหรับอาคารที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงในช่วงกลางวัน ระบบนี้จะผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในเวลากลางวันและใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าในเวลากลางคืน หากผลิตไฟฟ้าได้เกินความต้องการ สามารถขายคืนให้การไฟฟ้าได้ ข้อดีคือมีต้นทุนติดตั้งต่ำกว่าระบบอื่น แต่จะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อไฟฟ้าดับ
2. ระบบออฟกริด (Off-Grid System)
ระบบออฟกริดเป็นระบบที่ทำงานแบบอิสระ ไม่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า มีแบตเตอรี่สำหรับเก็บพลังงานไว้ใช้ในเวลาที่ไม่มีแสงแดด เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง หรือต้องการความเป็นอิสระด้านพลังงาน ข้อดีคือไม่ต้องพึ่งพาระบบไฟฟ้าจากภายนอก แต่มีต้นทุนสูงกว่าเนื่องจากต้องติดตั้งแบตเตอรี่
3. ระบบไฮบริด (Hybrid System)
ระบบไฮบริดเป็นการผสมผสานระหว่างระบบออนกริดและออฟกริด มีทั้งการเชื่อมต่อกับการไฟฟ้าและระบบแบตเตอรี่สำรองไฟ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องแม้ในยามฉุกเฉิน เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการความเสถียรของระบบไฟฟ้าสูง เช่น โรงพยาบาล หรือศูนย์ข้อมูล แต่มีต้นทุนการติดตั้งและการบำรุงรักษาสูงที่สุด
สรุปบทความ
การเลือกระหว่างโซล่ารูฟและโซล่าเซลล์ควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก หากต้องการระบบผลิตไฟฟ้าที่ครบวงจรสำหรับอาคาร โซล่ารูฟจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า โดยสามารถเลือกระบบย่อย (ออนกริด ออฟกริด หรือไฮบริด) ตามลักษณะการใช้งานและงบประมาณ ส่วนโซล่าเซลล์จะเหมาะกับการใช้งานขนาดเล็กหรือเป็นส่วนประกอบของระบบผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่กว่า ทั้งนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อออกแบบระบบให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานและงบประมาณที่มี
การติดตั้งโซล่าเซลล์ และโซล่ารูฟที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการวางแผนที่ดีและการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ระบบที่เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่ติดตั้งมากที่สุด ซึ่ง GREENERGY เป็นหนึ่งในเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา ออกแบบ ก่อสร้าง บำรุงรักษา และรับติดตั้งโซล่าเซลล์แบบครบวงจร อีกทั้งยังมีประสบการณ์และโครงการที่ประสบความสำเร็จมากมาย ทำให้คุณสามารถวางใจในการติดตั้งโซล่าเซลล์อย่างปลอดภัยกับเราได้อย่างแน่นอน โดยคุณสามารถสอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางดังนี้
Comments